Bangpakok Hospital

นอนหลับแล้วไม่ตื่น เสี่ยง

28 ต.ค. 2567


นอนหลับแล้วไม่ตื่น เสี่ยง"โรคไหลตาย

 

โรคไหลตาย หรือ ภาวะเสียชีวิตฉับพลันโดยไม่ทราบสาเหตุขณะหลับ ในทางการแพทย์เรียกภาวะนี้ว่า “หัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน” เป็นอีกหนึ่งโรคที่พบบ่อยโดยเฉพาะในแถบภาคอีสาน ความน่ากลัวของโรคนี้คือการเสียชีวิตแบบเฉียบพลัน ที่ผู้ตายไม่มีโอกาสรู้ตัวมาก่อนเลย ส่วนใหญ่พบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง โดยเฉพาะช่วงอายุ 25 - 50 ปี ที่สุขภาพร่างกายแข็งแรง หรือไม่เคยเป็นโรคใด ๆ มาก่อนก็ตาม

 

ทำความรู้จัก โรคไหลตาย เป็นอย่างไร..!!

เป็นโรคทางกรรมพันธุ์ที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น ทางการแพทย์เรียกภาวะนี้ว่า กลุ่มอาการบรูกาดา (Brugada Syndrome) ที่เกิดขึ้นจากความผิดปกติทางพันธุกรรมของการนำเกลือแร่โซเดียมเข้าออกเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจ ทำให้คลื่นไฟฟ้าหัวใจทำงานผิดปกติ หัวใจเต้นผิดจังหวะขั้นรุนแรง ทำให้การสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ได้ไม่เพียงพอแบบกะทันหัน ส่วนมากจะเกิดขึ้นในระหว่างนอนหลับ ส่งผลให้หมดสติและเสียชีวิตในระยะเวลาอันรวดเร็ว สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ซึ่งสเหตุหลัก ๆ ที่ส่งผลทำให้มีโอกาสเกิดอาการมากขึ้น ได้แก่

  • ภาวะร่างกายขาดแร่ธาตุโพแทสเซียม ซึ่งมีผลต่อการเต้นของหัวใจ จนทำให้กล้ามเนื้อหัวใจเกิดภาวะมีเลือดไปเลี้ยงไม่เพียงพอ ทำให้เสียชีวิตในที่สุด
  • การขาดสารอาหารที่เป็นวิตามินบี 1 อย่างรุนแรงเฉียบพลัน ทำให้รู้สึกอ่อนเพลียและอยากนอนมากกว่าปกติ เมื่อหลับแล้วมักเกิดภาวะหัวใจวายจนเสียชีวิต
  • มีภาวะไข้สูง
  • การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
  • การใช้ยานอนหลับเป็นประจำ

 

อาการที่พบได้มีอะไรบ้าง..!!

  • เป็นลมหมดสติ
  • อึดอัด หายใจเสียงดัง หายใจลำบาก โดยเฉพาะเวลากลางคืน
  • แน่นหน้าอก หัวใจเต้นไม่สม่ำเสมอหรือมีภาวะใจสั่น
  • หัวใจเต้นเร็วมาก
  • แขนขาเกร็ง ชัก
  • อาจมีปัสสาวะและอุจจาระราด
  • ใบหน้าและริมฝีปากเขียวคล้ำ
  • บางรายอาจมีการเสียชีวิตกะทันหัน

ส่วนมากผู้ที่เป็นโรคไหลตายมักจะเสียชีวิตฉับพลันขณะหลับในเวลากลางคืน โดยไม่ทันทราบว่า มีอาการผิดปกติเกิดขึ้น ดังนั้นหากมีอาการผิดปกติดังอาการข้างต้น แนะนำให้รีบเข้ามาปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุของอาการผิดปกติดังกล่าว หรือหากมีอาการที่รุนแรงควรรีบตามรถพยาบาลและนำส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด

 

ใครบ้างที่เสี่ยง..!!

  • มีประวัติคนในครอบครัวเสียชีวิตเฉียบพลันก่อนวัยอันควร หรือมีประวัติโรคไหลตายในครอบครัว
  • ผู้ที่เป็นโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะตั้งแต่กำเนิด
  • ตรวจพบคลื่นไฟฟ้าหัวใจผิดปกติชนิดบรูกาดา
  • ผู้ชายในช่วงวัยทำงานหรือวัยกลางคน
  • เชื้อชาติ พบบ่อยในชาวเอเชีย โดยเฉพาะชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

 

การตรวจวินิจฉัยทำอย่างไร..!!

อายุรแพทย์โรคหัวใจหรือแพทย์ผู้ชำนาญด้านไฟฟ้าหัวใจ จะทำการซักประวัติและการตรวจร่างกายเบื้องต้น พร้อมด้วยการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) เพื่อดูลักษณะคลื่นไฟฟ้าหัวใจที่บ่งชี้กลุ่มอาการบรูกาดาหรือไม่ รวมถึงการตรวจพิเศษอื่น ๆ เพิ่มเติมตามแพทย์พิจารณา ดังนี้

  • การตรวจสมรรถภาพของหัวใจขณะออกกำลังกาย (Exercise Stress Test)
  • การตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูง (echocardiography) เพื่อตรวจดูโครงสร้างของหัวใจว่าปกติหรือไม่
  • การตรวจทางสรีรวิทยาไฟฟ้าหัวใจ เป็นการตรวจระบบไฟฟ้าในหัวใจโดยการใส่สายเข้าไปตรวจภายในหัวใจ ในรายที่สงสัยว่ามีอาการบรูกาดา
  • การติดเครื่องบันทึกคลื่นไฟฟ้าหัวใจแบบพกติดตัว (Holter Monitoring) ตลอด 24 ชม.เป็นการตรวจติดตามภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ
  • การตรวจทางพันธุกรรม (Genetic testing) เพื่อดูการกลายพันธุ์ในสารพันธุกรรมที่บ่งชี้ความเสี่ยงในการเกิดโรคไหลตาย หรือหากผู้ที่มีอาการเสียชีวิตไปแล้ว แพทย์จะพิจารณาตรวจตามประวัติและความเสี่ยง

 

รักษาได้อย่างไร..!!

  • การผ่าตัดฝังเครื่องกระตุ้นหัวใจด้วยไฟฟ้า (Implantable Cardioverter Defibrillator: ICD) โดยฝังเครื่องไว้บริเวณหน้าอกด้านซ้าย เมื่อหัวใจเต้นผิดจังหวะ เครื่องจะส่งกระแสไฟฟ้าไปกระตุ้นให้หัวใจให้กลับมาเต้นเป็นปกติ
  • การจี้หัวใจด้วยไฟฟ้าผ่านคลื่นเสียงความถี่สูง (Radiofrequency Ablation: RFA) โดยการใส่สายสวนหัวใจเข้าไปแล้วใช้ความร้อนจี้ตรงที่มีปัญหาเพื่อลดโอกาสการเกิดหัวใจเต้นผิดจังหวะ และยังเป็นการรักษาหัวใจเต้นผิดจังหวะโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผลจากการผ่าตัด ไม่ต้องใช้ยาสลบและไม่เจ็บตัวขณะที่ทำการรักษา
  • การใช้ยาเพื่อควบคุมการเต้นของหัวใจ ซึ่งขึ้นอยู่กับแพทย์เป็นผู้พิจารณา อาจใช้เป็นการรักษาเสริมหลังผู้ป่วยผ่าตัดฝังเครื่องกระตุ้นหัวใจแล้ว

 

ลดเสี่ยงได้อย่างไร..!!

  • ลดอาหารคาร์โบไฮเดรตสูง เช่น ข้าวเหนียว ของหวาน
  • ลดการสูบบุหรี่ ดื่มเหล้า
  • ลดความเครียดจากการทำงาน เปลี่ยนสิ่งแวดล้อมกระกันหัน
  • หลีกเลี่ยงอุณหภูมิ ร่างกายที่สูงกว่า 40 องศา
  • นอนพักผ่อนให้เพียงพอ
  • ควรตรวจสุขภาพหัวใจอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง โดยเฉพาะการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ

 

ในปัจจุบันโรคไหลตายยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ซึ่งส่วนมากมักจะเสียชีวิตแบบเฉียบพลันขณะหลับในเวลากลางคืนโดยที่ไม่เคยมีอาการผิดปกติใด ๆ เตือนมาก่อน และคนรอบข้างไม่ทันรู้ตัว ดังนั้นการป้องกันที่ดีที่สุดก่อนการเกิดโรคไหลตายจึงเป็นสิ่งสำคัญ หากคุณมีความเสี่ยง มีอาการที่น่าสงสัย หรือมีประวัติครอบครัวเป็นโรคดังกล่าว ควรรีบเข้ามาปรึกษาแพทย์เฉพาะทางโรคหัวใจเพื่อตรวจวินิจฉัย ประเมินความเสี่ยงต่าง ๆ รวมไปถึงการรักษาที่เหมาะสม

 

สนับสนุนข้อมูลโดย : นพ.สนัฐชา  อาภาคัพภะกุล

อายุรแพทย์โรคหัวใจ เฉพาะทางสรีระไฟฟ้าหัวใจ

ศูนย์การแพทย์ : ศูนย์หัวใจ โรงพยาบาลบางปะกอก 3

ติดตามช่องทางออนไลน์อื่น ๆ ของโรงพยาบาลบางปะกอก 3

Facebook : https://www.facebook.com/bangpakok3

LINE O/A : https://page.line.me/947ptrfh

YouTube : https://shorturl.asia/qjUJc

TikTok : https://shorturl.asia/dP5Z0

 

Go to top
Copyright © 2019 Bangpakok Hospital All rights reserved.